จังหวัดสตูลแดนทะเลใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ทางธรรมชาติที่มีความสวยงามน่าค้นหา เหมาะสำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยว อยากมีทริปที่แสนวิเศษ เที่ยวได้ครบทั้งป่าเขา น้ำตก และท้องทะเลที่แสนสวยงาม ในเรื่องของที่พักสตูลก็มีรองรับอย่างเพียงพอแก่นักท่องเที่ยว ถ้าใครที่มาเป็นคู่อยากได้ที่พักสตูลที่มีบรรยากาศแสนโรแมนติก ก็มีให้เลือกได้หลายแบบเลย จะเป็นที่พักสตูลบนบก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่อำเภอเมืองสตูลและอำเภอละงู หรืออยากได้ที่พักที่เป็นส่วนตัว วิวสวยๆ จะเลือกเป็นที่พักสตูลบนเกาะ ก็มีให้อย่างมากมาย โดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะ ที่มีชื่อเสียงมากคนส่วนใหญ่รู้จักกันดี ถ้าใครมาเป็นกลุ่มเพื่อนหลายคนก็มีที่พักเช่นรีสอร์ทสตูล บังกะโลวสตูล โรงแรมสตูล อยู่มากมาย สามารถเลือกได้เลย หรือใครที่มาเดี่ยว แบ็คแพ็คเที่ยวชิวๆ ไม่อยากจะเน้นที่พักอะไรมากตั้งงบไว้จำกัด ก็จะมีที่พักสตูลราคาถูก หรือที่พักสตูลราคาหลักร้อย และก็ยังมีเป็นโฮมสเตย์สตูล ให้ได้เลือกพักตามความสะดวกของนักท่องเที่ยวได้เลย ที่พักสตูลก็ยังมีหลายระดับกระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองเลยเป็นที่พักโรงแรมสตูลระดับมาตรฐาน ไปจนถึงโรงแรมสตูลระดับ 4-5 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนเลยก็มี

ถ้าพูดถึงสตูล จุดหมายปลายทางสำหรับใครหลายคน ชวนให้นึกถึงน้ำทะเลที่ใสมาก เวลาพายเรือสามารถมองเห็นเงาของเรือที่พื้นทราย ทำให้รู้สึกเหมือนเราลอยอยู่บนอากาศได้เลยประมาณนั้น ทรายขาวใสที่แสนละเอียด วิวสวยๆ ของทะเลอันดามันมองไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นอะไรที่น่าหลงใหลและเป็นเสน่ห์ของจังหวัดสตูล รวมไปถึงเกาะน้อยใหญ่ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส ณ แดนสวรรค์แห่งนี้

• อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อยู่ที่ตำบลละงู เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย มีชื่อเสียงที่โด่งดังทางด้านธรรมชาติ มีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่ง ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่ 7 เกาะ ในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีพันธุ์ปลามากมายหลายชนิดรวมทั้งเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 4 ชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่ยังคงความงดงามและสมบูรณ์ของเกาะไว้ได้ จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกแห่งอาเชียนในปี พ.ศ.2525

• อุทยานแห่งชาติทะเลบัน เป็นอุทยานแห่งชาติทางบกที่มีเนื้อที่ 122,500 ไร่ เพี้ยนมาจากคำว่า เลิดเรอบัน เป็นภาษามลายู แปลว่า ทะเลยุบ เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการยุบตัวของพื้นดินในอดีต น้ำในบึงเกิดจากต้นน้ำที่ออกมาจากผนังเขาบริเวณโดยรอบ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่นอันอุดมสมบูรณ์ มีทางเดินไม้รอบบึงสำหรับเดินเล่มชมวิว ถ่ายรูป เพลินตาไปกับธรรมชาติรอบตัว

• พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล หรือ คฤหาสน์กูเด็น ตั้งอยู่ ซอย 5 ถนนสตูลธานี ตำบลพิมาน ลักษณะของอาคาร 2 ชั้นโดดเด่น ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นการผสมผสานกันทางศิลปะได้อย่างสวยงาม บานหน้าต่างละเอียดด้วยแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์เมืองสตูล วิถีชีวิตของชาวสตูล รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นด้วย

• มัสยิดมำบัง ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนบุรีวานิชและถนนสตูลธานี กลางเมืองสตูล มัสยิดที่เผยความสง่างามในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่หลังนี้ เป็นสถานที่อันทรงคุณค่ายิ่งสำหรับชาวสตูล มีโดมเดียวรูปคล้ายบัวตูมหรือ เรือ ในหมากรุกไทยบนยอดโดมมีสัญลักษณ์ดาวและพระจันทร์เสี้ยว ตัวอาคารสีขาวได้รับการตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อนและกระจกใส เป็นศูนย์รวมในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิม

• เกาะหลีเป๊ะ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง เกาะงามดังเพชรแห่งทะเลอันดามัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย เป็นเกาะที่เหมาะกับการดำน้ำตื้นชมปลาสวยงาม และแนวปะการังสมบูรณ์ มีทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และแนวปะการังสวยงาม เกาะหินงาม เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีหาดก้อนสีดำกลมเกลี้ยงสวยงามโดดเด่นมาก

• เกาะอาดังและเกาะราวี เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 40 กิโลเมตร บนเกาะอาดังยังมีจุดชมวิว ผาชะโด เป็นลานโล่งมองลงไปจะเห็นทิวสนและแหลมทรายสีขาว ทะเลสีครามของเกาะอาดัง มองเห็นเกาะหลีเป๊ะ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย ส่วนเกาะราวีเป็นเกาะที่มีแนวปะการังน้ำตื้นซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปดำชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเล

• เกาะบุโหลนเล อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เป็นเกาะที่เงียบสงบ ชมธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัว ทางด้านทิศตะวันตกจะมีแนวปะการังน้ำตื้น และพวกปะการังแข็ง มีชายหาดที่ทอดยาวขาวละเอียด ชื่อหาดแพนแซน จุดเด่นของโลกใต้น้ำที่หมู่เกาะบุโหลนคือปะการังอ่อน หรือที่มักเรียกกันว่า ปะการังเจ็ดสี

• หมู่เกาะเภตรา ห่างจากอำเภอละงูประมาณ 7 กิโลเมตรประกอบด้วยพื้นที่น้ำทะเล เกาะ ภูเขา พื้นที่ราบบริเวณหุบเขาและพื้นที่ราบชายฝั่งทะเล เกาะมากกว่า 22 เกาะกลางท้องทะเลอันดามัน จะมีรูปร่างแปลกตาและมีลักษณะโดดเด่นโดยเป็นเกาะหินปูนมีความลาดชันสูงมากกว่า 35 เปอร์เช็นต์ มีทิวทัศน์ทางทะเลสวยงาม มีปะการังและหาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับการมาดำน้ำและพักผ่อนแบบเงียบสงบ

• เกาะหินงาม เกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของเกาะอาดัง มีความโดดเด่นกว่าเกาะอื่นๆ ตรงที่เป็นหาดหิน เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทรายใดๆ ซึ่งมีอยู่เกาะเดียวในประเทศไทย ทั้งเกาะเต็มไปด้วยก้อนหินสีดำ กลมเกลี้ยง เนื่องจากถูกขัดสีด้วยแรงคลื่น ดูงามสดสวย เมื่อถูกน้ำทำให้ก้อนหินเป็นมันวาวยิ่งขึ้น กลางเกาะเป็นป่าไม้สีเขียวเข้าสมบูรณ์

• เกาะไข่ อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นเกาะที่อยู่ตรงกลาง แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่เป็นเกาะที่สวยไม่เหมือนใคร สิ่งที่มีชื่อเสียงบนเกาะไข่ คือ ซุ้มประตูหินธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีรูกว้างตรงกลางขนาดเดินไปยืนเรียงกันได้หลายคน ซึ่งเรียกกันว่า ซุ้มรักนิรันดร หรือซุ้มประตูแห่งรัก ทางด้านตะวันตกของเกาะมีหาดทรายสีขาวนวล และละเอียด ทุกปีจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก

• วัดดุลยาราม เดิมชื่อ วัดบ้านจีน ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านจีน ตำบลฉลุง มีพระพุทธรูปเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง คือ พระพุทธรูปหลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ ฝีมือช่างล้านนา ขนาดสูง 75 เซนติเมตร วันสงกรานต์ของทุกปี จะมีการอัญเชิญหลวงพ่อแก่จากวิหารมาประดิษฐานไว้บนแท่นบูชาแล้วเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สรงน้ำ

• บ่อน้ำร้อนทุ่งนุ้ย ตั้งอยู่บ้านน้ำร้อน หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งนุ้ย บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ดูแลโดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล บริเวณบ่อน้ำร้อนตั้งอยู่ริมเชิงเขา แวดล้อมด้วยสวนผลไม้และสวนยางพารา เป็นบ่ออาบน้ำแร่ธรรมชาติ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย

• ถ้ำเลสเตโกดอน เป็นถ้ำอยู่ในเทือกเขาหินปูนทอดยาวมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ใต้ภูเขา ตั้งอยู่ที่บ้านคีรีวง ตำบลทุ่งหว้า ใครได้เข้าไปสัมผัส ต้องตะลึงไปกับประกายระยิบระยับพวกแร่แคลไซด์ ที่เคลือบอยู่ตามก้อนหินรูปทรงชวนแปลกตาภายในถ้ำ ภายในถ้ำมีลักษณะคดเคี้ยวมีระยะทางจากปากถ้ำจนถึงทางออก ประมาณ 4 กิโลเมตร และยังมีการก่อตัวของหินงอกหินย้อยลักษณะสวยงามแปลกตามากมาย ที่สำคัญคือการพบซากดึกดำบรรพ์สัตว์มีกระดูกสันหลังจำนวนมากบริเวณพื้นลำธารตลอดความยาวของถ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้าง สกุล สเตโกดอน ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกชื่อถ้ำแห่งนี้

• ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย และใหญ่ติดอันดับ4 ของโลก ตั้งอยู่ที่บ้านป่าพน ตำบลปาล์มพัฒนา เนื้อที่ภายในถ้ำกว่า 50 ไร่ ตั้งอยู่บนเทือกเขาหินปูนในเขตทิวเขานครศรีธรรมราช หรือที่นิยมเรียกว่าเขาบรรทัด เพดานถ้ำสูงโปร่ง ภายในถ้ำมีลักษณะแปลกตา เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย เปล่งประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดเพชร สันนิษฐานว่าเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ซึ่งมนุษย์สมัยก่อนใช้ประกอบพิธีทางศาสนา เมือประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว ภายในถ้ำนั้นจัดสรรแบ่งเป็นห้องต่างๆ มากถึง 20 ห้อง มีสะพานไม้เป็นทางเดินตลอดถ้ำและติดตั้งไฟส่องสว่าง

• น้ำตกวังสายทอง ตั้งอยู่ที่ตำบลวังน้ำผุด อำเภอละงู เป็นน้ำตกชั้นหินปูนขนาดใหญ่แห่งแรก ในภาคใต้ ที่มีความสวยงามและมหัศจรรย์ มี 6 ชั้น น้ำตกมีความกว้างประมาณ 50 เมตร มีความสูงประมาณ 20 เมตร พร้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ บริเวณน้ำตกมีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่น ความงามของน้ำตกวังสายทองอยู่ที่แอ่งน้ำแต่ละชั้นที่ลดหลั่นกันลงมาจากชั้นบนสุดจนถึงช้างล่างสุดแลดูคล้ายดอกบัว

• สันหลังมังกร (ทะเลแหวก) คำเรียกขานเกาะแห่งหนึ่งของชาวชุมชนตันหยงโป สิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน ในช่วงที่น้ำลด เราจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล ที่เต็มไปด้วยซากเปลือกหอยนับหลายล้านตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกัน ทำให้เกิดเป็นเส้นทางคดเคี้ยวยาวกว่า 3 กิโลเมตร เชื่อมเป็นทางยาวระหว่าง เกาะหัวมัน กับ เกาะสาม หรือเปรียบเสมือนกับมังกรฟ้าถลาลงเล่นน้ำ

• ถ้ำเจ็ดคต ล่องแก่งวังสายหมอก ถ้ำมีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากถ้ำอื่นๆ คือมีลำคลองลอดถ้ำ คดเคี้ยว ตัวถ้ำมีถึง 7 คูหา เป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้ มีผู้ตั้งชื่อใหม่ว่า ถ้ำสัตคูหา ตั้งอยู่หมู่ 5 ตำบลปาล์มพัฒนา ภายในมีน้ำไหลลอดคดโค้ง ท้าทายให้นักผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ เพื่อชมธรรมชาติและหินงอกหินย้อยได้อย่างสะดวกสบาย